ถึงตอนนี้ คงปฎิเสธ ไม่ได้ละว่า เครื่องกรองอากาศ แม่งจำเป็นสำหรับทุกบ้านในตอนนี้ เพราะปัญหา PM 2.5 ที่ คนใหญ่คนโต ในบ้านไม่ยอมแก้ปัญหา แล้วพูดออกมาว่า ให้แก้ที่ตัวเอง นั้นมาแก้ที่ตัวเองกัน โดยการใช้ เครื่องกรองอากาศ
วันนี้มาเสนอ Xiaomi Air Purifier ตอนนี้ มีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ (เฉพาะที่ใช้ในบ้าน ในรถแยกเป็นอีกตัวนึง)
เริ่มต้นจากตัวที่แม่งราคาถูกที่สุด อย่าง
1. Xiaomi Air Purifier 2H
ตัวนี้กรองอากาศได้ดี ราคาถูก เน้นประหยัด *ไม่มีหน้าจอแสดงผล* แต่สามารถ เชื่อมต่อผ่าน App ของ Mi Home ได้ดูการแสดงผลได้ สำหรับพื้นที่ 18-31 ตรม
2. Xiaomi Air Purifier 2S
ตัวนี้จะเหมือน 2H แต่ว่า มีจอแสดงผล ต่างกันแค่ตรงนี้เลย
ราคาต่างกันประมาณ 300-500 บาท แล้วแต่ร้าน แล้วแต่ชอบ เลือกกันเอง
3. Xiaomi Air Purifier 3H
ตัวนี้จะเป็นตัวใหม่ล่าสุดของ เครื่องฟอกอากาศ ขนาดแม่งก็จะเท่ากันกับ ตัว 2H และ 2Sนั้นแหละ แต่ที่ดีกว่า คือ ตัวนี้ พัดลมกรองจะใหญ่ขึ้น และมอเตอร์แรงขึ้น เท่ากับกว่า กรองได้เร็วกว่าตัว 2s และ 2H
สำหรับตัวนี้ เหมาะกับพื้นที่ใช้งาน 28-48 ตรม ซึ่ง เหมาะกับ ห้องรับแขก หรือห้องนอน ที่มีขนาดใหญ่
4. Xiaomi Air Purifier Pro
ตัวนี้จะเหมาะกับห้องขนาดใหญ่ ห้องโถง เพราะ กรองได้พื้นที่ถึง 35-60 ตรม. และมี มอเตอร์ 2 ตัวและ 2พัดลม เลยทีเดียว ส่วนฟังค์ชั่นการใช้งาน ไม่ต่างกันกับ ตัว 2H 2S 3H แต่สำหรับตัวนี้่จะได้พื้นที่กว้างมากขึ้น ถ้าห้องไม่ใหญ่ ไม่ต้องซื้อเปลือง
5. Xiaomi Air Purifiler Max
ตัวนี้จะเป็นตัวท็อปของ Xiaomi Air Purifiler ตัวนี้จะเป็นระบบกรองแบบ 2 ชั้น จะใช้ Filter คนละตัวกับ ที่บอกมาข้างต้นทั้งหมด เพราะ Filter กรองจะเป็นแบบ สี่เหลี่ยม
พื้นที่ใช้งาน อยู่ 70-120 ตรม ซึ่งกว้างมาก บ้านไม่ใหญ่ไม่จำเป็น ยังมองว่าถ้าซื้อตัวนี้ ซื้อ 3H 3ตัวยังคุ้มกว่า ราคาแม่งแพงสัส 10kกว่า
ทุกเครื่องจะมีโหมดการใช้งาน 3 โหมด
ดังนี้
1. Automatic จะทำงานแบบ Auto กรองจะเบา ถ้าค่าฝุ่นในอากาศ ไม่ถึง 20 แต่ถ้าเกิน ระบบทำงานจะแรงขึ้น มาอีกระดับ
2. โหมดเงียบ สำหรับ ท่านที่วางไว้ในห้องนอน แต่ต้องการความเงียบ สำหรับการพักผ่อน ยามค่ำคืน **ตรงนี้ ส่วนตัวผมนั้น ไม่ได้ใช้ เพราะต่อให้ค่าฝุ่นเกิน 20 ก็ยังเบาอยู่ดี
3. โหมดปรับเอง ตรงนี้เป็นการสั่งควบคุมความแรง ผ่าน App Mi Home ทีมงานตั้งความแรงไว้สุดเลย เพราะ ต้องการให้ กรองอากาศ รวดเร็วทันใจ ให้ค่าฝุ่นลดลงเร็วแบบสุด
**ในส่วนของ Filter กรองนั้น จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนทุก 6เดือน Filter จะมารีวิวในโพสต่อไป ว่าอันไหนเหมาะสมกับบ้านเรา**
มาถึงการตัดสินใจในการเลือกซื้อ
สำหรับใครที่อยู่คอนโด แนะนำแค่ 2H หรือ 2S ก็น่าจะเพียงพอ ดีกว่าที่ไม่ได้กรองอะไรเลย
แต่เรื่องความคุ้มค่าในการซื้อสุดทีมงานมองว่าจะเป็น ตัว 3H ถ้าราคาเทียบกับ ตัว Pro ห่างกันไม่กี่ร้อยบาท เพราะตัว Pro เหมาะกับพื้นที่ใหญ่ แต่ยังมองว่า ไม่จำเป็นขนาดนั้น เพราะทั้งนี้ทั้งนั้น พื้นที่ในบ้าน หรือในห้อง น่าจะไม่ได้ใหญ่กันมากขนาดนั้นอยู่แล้ว เพราะ 3H ได้พัดลมใหม่ มอเตอร์ใหม่ ใหญ่กว่าเดิม