เช็กอาการมะเร็งปากมดลูก สังเกตที่อะไรบ้าง รักษาอย่างไร?
มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตของผู้หญิงไทยจำนวนมาก ซึ่งหากว่าเรารู้ตัวเร็ว โอกาสของการรักษาหาย ก็มีสูงกว่า และมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า วันนี้เราเลยจะชวนทุกคนมาเช็กอาการมะเร็งปากมดลูกว่ามีข้อสังเกตอะไรในแต่ละระยะ
มะเร็งปากมดลูกมีกี่ระยะ
ก่อนที่เราจะไปพูดถึงอาการมะเร็งปากมดลูก เราจะชวนทุกคนไปดูก่อนว่ามะเร็งปากมดลูกมีกี่ระยะ
มะเร็งปากมดลูกสามารถแบ่งเป็นทั้งหมด 4 ระยะ ตามการแพร่กระจายของโลก แบ่งเป็นระยะที่ 1 ซึ่งเป็นระยะเริ่มต้น มักจะไม่ค่อยแสดงอาการใด ๆ เว้นแต่จะมีการตรวจคัดกรอง ระยะที่ 2-3 ระยะลุกลาม เป็นระยะที่เริ่มกระจายไปยังอวัยวะโดยรอบ และระยที่ 4 เป็นระยะสุดท้ายที่มีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ หรือระบบอื่น ๆ ของร่างกาย
อาการมะเร็งปากมดลูก
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า อาการมะเร็งปากมดลูกจะขึ้นอยู่กับอาการ ซึ่งอาการจะแสดงออกมากขึ้น เมื่อระยะท้าย ๆ ดังนั้น การสังเกตความผิดปกติ และการตรวจคัดกรองเป็นประจำ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้มากขึ้น
อาการมะเร็งปากมดลูก เช่น มีเลือดออกทางช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือน หรือมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ตกข่าวมีอาการผิดปกติ หรือมีเลือดปน
สำหรับอาการมะเร็งปากมดลูกในระยะลุกลาม อาจจะมีอาการขาบวม ไตวาย ปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นเลือดร่วมด้วย
การป้องกันมะเร็งปากมดลูก
สำหรับการป้องกันมะเร็งปากมดลูกสามารถทำได้แบบง่าย ๆ ตั้งแต่การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ การมีคู่นอนเพียงคนเดียว นอกจากนี้ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำก็จะช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกได้
การตรวจวินิจฉัยและรักษา
เมื่อมีอาการมะเร็งปากมดลูก แนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอ โดยแพทย์จะทำการตรวจคัดกรองด้วยการตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear หรือ Pap Test), การส่องกล้องตรวจ หรือการตัดชิ้นเนื้อที่ผิดปกติไปตรวจ เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นมะเร็งหรือไม่
หากว่าพบว่าความผิดปกติดังกล่าว มีสาเหตุมาจากมะเร็งปากมดลูก จะต้องเข้ารับการรักษา ซึ่งวิธีการรักษาจะเป็นการรักษาตามระยะที่เป็น สำหรับระยะที่ 1 และ 2 จะสามารถผ่าตัดเอาเซลล์ที่ผิดปกติออกได้ นอกจากนี้ยังใช้การรังสีรักษา สำหรับการรักษาระยะที่ 2 รวมถึงการใช้เคมีบำบัดร่วมด้วย
มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่สามารถป้องกันได้ และสามารถรักษาให้หายขาดได้ หากว่าเจอในระยะแรก ๆ ดังนั้น เราควรจะสังเกตอาการมะเร็งปากมดลูก และตรวจคัดกรองเป็นประจำ โดยเฉพาะหากว่าอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรจะตรวจแปปสเมียร์ปีละครั้ง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเสียชีวิต