แนะนำ 10 หูฟังครอบหู ยี่ห้อไหนดี เสียงดี น่าใช้แห่งปี 2023
หูฟังครอบหู คืออะไร
หูฟังครอบหู (In-ear headphones) คือหูฟังที่มีแหล่งกำเนิดเสียงติดตัวแทนกับโทรศัพท์หรือเครื่องเล่นเพลงและปลายหูฟังจะอยู่ในหูของคุณ เพื่อให้เสียงเข้าปากหู ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับเสียงที่ดีขึ้นและมีปิดฝุ่นเสียงภายนอกได้ดี
หูฟังครอบหู มีความปลอดภัยสูงกว่าหูฟังแบบพกพา เพราะไม่มีการขยายเสียงภายนอก ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับเสียงที่ดีขึ้น และเป็นประโยชน์ในการใช้งานต่างๆ เช่น การฟังเพลง หรือการใช้งานในสถานที
1. Grado SR325X หูฟังครอบหัวแบบเปิดคุณภาพสูง
เจ้าของฉายา เรือธงซีรี่ย์ Prestige จากแบรนด์ Grado รุ่น SR325x ที่มีดีไซน์สุดล้ำไม่ซ้ำใครตัวหูฟังทำจากอลูมิเนียมมีความแข็งแรงทนทาน และได้พัฒนาจากรุ่นเก่าให้ตัวฟองน้ำ F Cushion แนบไปกับไดร์ฟเวอร์เลย voice coil และ diaphragm ออกมาใหม่ช่วยเรื่องเสียงที่ดียิ่งขึ้น ตัวสายทำมาจากในรอนซึ่งจะเพิ่มความแข็งแรงทนทานในการเก็บพร้อมกับรูแจ๊คขนาด 3.5มม. แถมรูแจ๊คขนาด 6.3 เพื่อให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้อีกด้วย เมื่อเทียบราคาและคุณภาพแล้วบอกเลยว่าคุ้มค่าแน่นอน
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังครอบหู
2. หูฟังไร้สาย B&O Play BeoPlay H8i งานประกอบคุณภาพเยี่ยมไร้ที่ติ
พระกาฬหรูข้ามวัน แค่ชื่อก็ขนลุกแล้วเจ้าของฉายาก็คือ B&O Beoplay H8i ถูกพัฒนามาจากรุ่น H8 หน้าตาอาจจะคล้ายกันแต่ว่าภายในนั้นแตกต่างกันอย่างแน่นอน ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูวัสดุที่ใช้นั่นบอกเลยว่า Luxury แน่นอน Head brand ทำมาจากหนังวัวแท้ ส่วนฟองน้ำหูฟังทำมาจาก memory form ห่อหุ้มด้วยหนังแกะแท้ สามารถใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมงเรียกได้ว่าใช้งานจนลืมไปเลย เพราะตัวแบตเตอรี่เป็น Li-ion polymer 1,110 mAh สำหรับคุณภาพเสียงจากเดิมที่ดีอยู่แล้วก็ยังถูกพัฒนาให้ดีขึ้นใครที่รักในการฟังเพลง ดูหนัง ต้องห้ามพลาดอย่างแน่นอน
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังครอบหู
3. หูฟังครอบหู Audio Technica รุ่น ATH-WP900
คลาสสิคแต่หรูหรา หูฟังครอบหูจากแบรนด์ Audio Technica รุ่น ATH-WP900 ตัวหูฟัง ear cup ใช้วัสดุจากไม้เมเปิลเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครด้วยรวดลายที่สวยงามจาก Fujigen เชื่อมต่อผ่านช่อง AUX ขนาด 3.5mm(สำหรับใช้กับโทรศัพท์ที่มีความละเอียดมาตรฐาน) และ Balanced 4.4mm (สำหรับใช้กับเครื่องเล่นเสียงที่มีความละเอียดสูง) คุณภาพของเสียงนั้นบอกเลยว่าครอบคลุมมากไม่ว่าจะด้วยเสียงที่กว้าง นุ่มนวล หนักแน่น ทำให้ผู้ใช้งานสัมผัสถึงได้การเข้าไปอยู่ในท่ามกลางวงดนตรีจริงๆ และหมดเพียงเท่านี้ ตัวไดอะแฟรมเคลือบด้วย Diamond Like Carbon ใช้โครงสร้าง PCB ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศได้ดี
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังครอบหู
4. หูฟังครอบหู Beats รุ่น Solo Pro หูฟังไร้สาย
Beats Solo Pro เป็นผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Beats ซึ่งรู้กันดีอยู่แล้วในเรื่องของความสวยงาม ทันสมัย เค้าไม่แพ้ใครจริงๆ ถูกพัฒนา 2 โหมดคือ Active Noise Cancelling (ANC) โหมดตัดเสียงรบกวนเพื่อรักษาเสียงที่คมชัด และโหมด Transparency ที่จะทำให้คุณได้รับรู้ถึงเสียงภายนอกได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้ง 2 โหมดนี้คุณสามารถสลับเปลี่ยนไปมาได้เองตรงปุ่ม ear cup สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 22 ชั่วโมงเรียกได้ว่าฟังกันให้เพลินใจไปเลย นอกจากนี้คุณยังสามารถแชร์ความสนุกกับเพื่อนผ่าน Airpods หรือ headphone beats 5 ได้อย่างสบายๆ
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังครอบหู
5.หูฟังครอบหู Master & Dynamic รุ่น MW50+ หูฟังไร้สาย
หูฟังสุดไฮเทคจากแบรนด์ดังจาก Master & Dynamic รุ่น MW50+ มีจุดเด่นที่สามารถเปลี่ยนฟองน้ำได้ 2 แบบ ทั้งแบบแบบครอบหูธรรมดาและครอบคลุมไปทั้งหูเพื่อการตัดเสียงรบกวนที่ดียิ่งขึ้น มีปุ่มเพิ่ม – ลด – หยุดเสียงเพียงปลายนิ้วสัมผัส คุณภาพของเสียงให้โทนเสียงที่นุ่มนวลชวนหลงใหล ไม่ทับซ้อนกันจากเสียงเครื่องดนตรีอื่นๆ ทำให้การฟังเพลงของเต็มไปด้วยอรรถรสที่น่าประทับใจ สามารถฟังเพลงได้ทุกอริยาบดด้วยตัวสายเป็นแบบ Wireless ไม่ว่าจะ เดิน นั่ง หรือนอน ฟังกันได้ยาวๆ เพราะตัวแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 16 ชั่วโมง
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังครอบหู
6.หูฟังครอบหู Beyerdynamic Aventho Wireless หูฟังไร้สาย
หากใครต้องการหูฟัง On ear ดีสักตัวเราอยากแนะนำ Beyerdynamic Aventho Wireless ดีไซน์สุดเท่ห์ที่แฝงไปด้วยความแข็งแกร่ง นำเทคโนโลยี Tesla มาใช้กับตัวแบตเตอรี่หมดห่วงเรื่องแบตเตอรี่หมดไวเพราะใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง และหากต้องการต่อสายเข้าอุปกรณ์ก็สามารถทำได้เพราะเค้ามี AUX/3.5 mm. มาให้อีกด้วย พร้อมฟีเจอร์ในการใช้งานที่มาครบครัน Custom เสียงผ่านแอพลิเคชัน MIY ได้อย่างงายที่รองรับทั้ง 2 ระบบ Android และ IOS คุณภาพเสียงจัดเต็มอีกเช่นเคยทั้งเสียงเบสที่มีความแน่น ไม่เยอะจนเกินไป ปลายเสียงนุ่มนวลเหมาะแก่การฟังเพลงในแต่ละวัน
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังครอบหู
7. หูฟังครอบหู JBL Under Armour TRAIN หูฟังไร้สาย
หูฟังจากแบรนด์ JBL collabs กับ Under Armour TRAIN ทำขึ้นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการออกกำลังกายโดยเฉพาะ เนื่องจากตัวฟองน้ำห่อหุ้มด้วยผ้า ทำให้ระบายอากาศได้ดี แห้งเร็ว และสามารถถอดซักได้ อย่างที่เราได้กล่าวไปทาง Under Armour TRAIN ได้ออกแบบสำหรับผู้ใช้ขณะออกกำลังกาย สามารถกันน้ำได้ในระดับ IPX4 แต่ไม่ถึงกับลงน้ำได้ มีระบบการทำงาน TalkThru ที่สามารถดึงเสียงภายในนอกให้เราได้ยินโดยที่ไม่ต้องถอดหูฟัง คุณภาพเสียงยังคงความเป็นเอกลักษณ์ในเรื่องของเสียงร้องได้ถูกออกแบบให้อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ผู้ใช้งานมากที่สุด เสียงเบสแน่นด้วยเบสที่มีลูกใหญ่ และเสียงของเครื่องดนตรีก็ทำได้ดีเช่นกัน
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังครอบหู
8. หูฟังครอบหู Audeze รุ่น Sine DX หูฟังไร้สาย
แบรนด์เครื่องเสียงระดับ High-end อย่าง Audeze มาพร้อมกับรุ่น Sine DX ดีไซน์สุดแปลกแต่คงความ High-end โดยมีจุดเด่นที่ Planar Driver 1 เดียวในโลก ที่ค้นพบในระหว่างร่วมงานกับ NASA ทำให้ตัว Planar Driver เกิดเสียงที่เที่ยงตรง ไร้การรบกวน การตอบสนองความถี่ที่ 10Hz – 50kHz สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ เพราะมี AUX 3.5 mm มาให้ด้วย
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังครอบหู
9. หูฟังครอบหู Apple รุ่น AirPods Max หูฟังไร้สาย
หูฟังสำหรับสาวกไอโฟนจาก Apple AirPods Max มีดีไซน์เอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทางแบรนด์ คุณภาพเสียงมาพร้อมกับไดรเวอร์ไดนามิกออกแบบโดย Apple มีฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ และสามารถปรับ EQ ได้เองตามใจชอบ พร้อมระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ ซึ่งน่าใจมาก มีไมโครโฟนทั้งหมด 9 ตัว สำหรับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนมีทั้งหมด 8 ตัว และเพื่อการโทรมีทั้งหมด 3 ตัว โดยมีเสริม 1 ตัวที่ใช้ร่วมกันและอีก 2 ตัวใช้ร่วมกับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังครอบหู
10. หูฟังครอบหู Skullcandy รุ่น Crusher Evo หูฟังไร้สาย
สำหรับใครที่ชอบเสียงเบสแน่นๆ Skullcandy รุ่น Crusher Evo อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ให้เบสหนักแบบหูแทบระเบิด สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 40 ชั่วโมง และยังการันตีการชาร์จเร็วแม้จะชาร์จเพียง 10 นาที สามารถใช้งานได้ 4 ชั่วโมง จุดเด่นหลักๆ เลยคือเทคโนโลยี Tile หมดกังวลเมื่อคุณลืมหูฟังไว้ที่ไหนสักแห่งก็สามารถติดตามได้อย่างงายดาย คุณภาพเสียงเป็นอีกแบรนด์ที่สามารถบอกได้เต็มปากว่าไม่แพ้แบรนด์อื่นๆ เลย
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังครอบหู
หูฟังครอบหู ยี่ห้อไหนดี เสียงดี น่าใช้
หูฟังครอบหู มีหลายยี่ห้อที่น่าแนะนำ แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณ
- ถ้าคุณต้องการหูฟังคุณภาพดีราคาไม่แพง คุณสามารถลองใช้ยี่ห้อ JBL หรือ Sony
- ถ้าคุณต้องการหูฟังคุณภาพสูง คุณสามารถลองใช้ยี่ห้อ Sennheiser หรือ Bose
- ถ้าคุณต้องการหูฟังคุณภาพสูงและเสียงดีต่อระบบเสียงบนโทรศัพท์ คุณสามารถลองใช้ยี่ห้อ Apple AirPods หรือ Samsung Galaxy Buds
คุณสามารถอ่านความคิดเห็นของผู้ใช้จริง และทดสอบเสียงก่อนซื้อ เพื่อให้เป็นประโยชน์สูงสุด