Site icon I3siam | ข่าวไอที อัพเดทข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ ข่าวเทคโนโลยี

ไวรัล คืออะไร (Viral Marketing) ทำยังไงให้ปัง

ไวรัล คืออะไร (Viral Marketing)ไวรัล คืออะไร (Viral Marketing) ทำยังไงให้ปัง

Viral Marketing คือการใช้เทคนิคการตลาดที่ใช้ความน่าสนใจและความสนุกสนานของสิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในช่วงนึง เช่น วิดีโอ ภาพ ข้อความ หรือแม้กระทั่งโฆษณา ในการส่งต่อ (share) ให้กับผู้คน โดยที่ผู้คนเองจะเป็นผู้กลายเป็นตัวกลางในการแพร่กระจายข้อมูลต่อไป จนกระทั่งเกิดการแพร่กระจายของสิ่งนั้นๆไปถึงกลุ่มคนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ อย่างไรก็ตาม หากอยู่ในเนื้อหาหรือรูปแบบที่ไม่น่าสนใจผู้คน การแพร่กระจายก็อาจจะไม่เป็นผลดี ดังนั้นการสร้างสิ่งที่น่าสนใจและเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการประสบความสำเร็จในการใช้ Viral Marketing

วิธีการทำงานของ Viral Marketing

วิธีการทำงานของ Viral Marketing คือการสร้างสื่อโฆษณา (advertisement) ที่น่าสนใจ หรือมีความเป็นเอกลักษณ์ เช่นวิดีโอสั้น ๆ หรือรูปภาพตลก ๆ และแบ่งปันต่อไปให้กับบุคคลอื่นๆ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก (Facebook), ทวิตเตอร์ (Twitter), ไลน์ (Line) ฯลฯ โดยจะระบุสิ่งของหรือบริการที่ต้องการโปรโมตไปด้วย หากแนวคิดหรือสื่อที่สร้างขึ้นมีความน่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจากกลุ่มผู้ใช้บริการ จะทำให้กลุ่มผู้ใช้งานในระดับกว้างขวางเกิดกระแสในการแชร์และแพร่กระจายสื่อต่อไป ด้วยความคุ้นเคยกันว่าเป็นการแพร่กระจายเช่นเดียวกับไวรัส (Virus) ซึ่งจะแพร่กระจายต่อไปโดยอัตโนมัติ

รูปแบบการทำการตลาดแบบ Viral Marketing

  1. กำหนดเป้าหมายการตลาด: กำหนดว่าจะใช้ Viral Marketing ในการส่งเสริมการตลาดสินค้าหรือบริการอะไร โดยจะต้องกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น การเพิ่มยอดขาย การเพิ่มการรับรู้แบรนด์ หรือการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ เป็นต้น
  2. การสร้างเนื้อหา (Content Creation): การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและเป็นเรื่องราวที่ผู้คนสามารถแชร์ต่อไปได้ โดยเนื้อหาสามารถเป็นวิดีโอ ภาพ ข้อความ หรือแม้กระทั่งโฆษณา ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและสื่อสังคมออนไลน์ที่ใช้งาน
  3. การแชร์เนื้อหา (Content Sharing): การแชร์เนื้อหาผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย อีเมล แชท หรือเว็บไซต์ โดยการแชร์เนื้อหานี้จะต้องสะท้อนความน่าสนใจและมีคุณค่าต่อผู้รับเหมือนกัน
  4. การแนะนำการแชร์เนื้อหา (Encouraging Sharing): การสร้างสภาวะและสร้างความต้องการให้ผู้ใช้งานส่งต่อเนื้อหานั้นๆ ผ่านการแนะนำและการแรงกดดันให้แชร์ต่อเพื่อสร้างความมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน
  5. การวัดผลและประเมินผล (Measurement and Evaluation) การวัดผลและประเมินผล (Measurement and Evaluation) เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการทำการตลาดแบบ Viral Marketing เพื่อวัดผลและประเมินผลว่ากิจกรรมการตลาดที่ดำเนินไปนั้นเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ โดยวิธีการวัดผลและประเมินผลในการทำการตลาดแบบ Viral Marketing สามารถทำได้โดยการใช้ตัวชี้วัดหลายอย่าง

ข้อดี ข้อเสีย ของ Viral Marketing

ข้อดี ของ Viral Marketing

Viral Marketing มีข้อดีอย่างมากมายที่ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความรู้จักแบรนด์และเพิ่มยอดขาย โดยสามารถสรุปได้ดังนี้

  1. ต้นทุนการตลาดต่ำ: Viral Marketing มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการโฆษณาแบบ传统 โดยการสร้างเนื้อหาและการแชร์เนื้อหานั้นสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณที่มากมาย
  2. มีการแพร่กระจายของเนื้อหาไปถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น: Viral Marketing มีโอกาสในการถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นเนื่องจากผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์จะช่วยแพร่กระจายข้อมูลต่อไปให้คนอื่นๆโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
  3. เกิดความน่าสนใจและมีคุณค่าต่อผู้รับ: เนื้อหาที่สร้างขึ้นโดย Viral Marketing จะต้องเป็นเนื้อหาที่น่าสนใจและมีคุณค่าต่อผู้รับ เพื่อให้ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์สนใจแชร์ต่อไป
  4. เพิ่มยอดขาย: Viral Marketing มีโอกาสที่จะเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นเนื่องจากเนื้อหาที่ได้สร้างขึ้นมีความน่าสนใจและมีคุณค่าต่อผู้รับ
  5. มีการสร้างความประทับใจและการรับรู้แบรนด์ที่ดี: Viral Marketing สามารถสร้างความประทับใจและการรับรู้แบรนด์ที่ดี

ข้อเสีย ของ Viral Marketing

Viral Marketing มีข้อเสียบางอย่างที่ควรพิจารณาด้วย ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้

  1. ไม่สามารถควบคุมข้อมูลที่แพร่กระจายได้: Viral Marketing ไม่สามารถควบคุมข้อมูลที่แพร่กระจายได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์อาจทำการแปลเนื้อหาผิดได้ หรือส่งต่อข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม
  2. สามารถสร้างผลเสียได้: Viral Marketing อาจทำให้มีผลเสียต่อแบรนด์หากไม่คำนึงถึงคุณภาพของเนื้อหาที่สร้างขึ้นและไม่พิจารณาผลกระทบของเนื้อหาต่อผู้รับ
  3. อาจไม่เหมาะสมกับบางกลุ่มเป้าหมาย: Viral Marketing อาจไม่เหมาะสมกับบางกลุ่มเป้าหมายหรือธุรกิจที่ไม่เหมาะกับการใช้วิธีการตลาดนี้ เนื่องจากอาจไม่สามารถสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเหมาะสม
  4. ไม่มีความมั่นคง: การตลาดแบบ Viral Marketing อาจไม่มีความมั่นคงต่อเนื้อหาที่มีอายุการใช้งานสั้นๆ โดยสิ่งที่ได้รับความนิยมในขณะหนึ่งอาจไม่ได้รับความนิยมต่อไป
  5. ยังไม่มีการวิจัยที่ชัดเจน: ยังไม่มีการวิจัยที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลของ Viral Marketing ต่อการเพิ่มยอดขายหรือการรับรู้แบรนด์อย

สรุป Viral Marketing มีประโยชน์อย่างไร

Viral Marketing เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากในการสร้างความรู้จักแบรนด์และเพิ่มยอดขาย โดยสามารถสรุปประโยชน์ของ Viral Marketing ได้ดังนี้

  1. ลดต้นทุนการตลาด: การทำ Viral Marketing มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการโฆษณาแบบ传统 จึงช่วยลดต้นทุนการตลาดได้เป็นอย่างมาก
  2. มีการแพร่กระจายของเนื้อหาไปถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น: Viral Marketing มีโอกาสในการถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น เนื่องจากผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์จะช่วยแพร่กระจายข้อมูลต่อไปให้คนอื่นๆโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
  3. เพิ่มยอดขาย: Viral Marketing มีโอกาสที่จะเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นเนื่องจากเนื้อหาที่ได้สร้างขึ้นมีความน่าสนใจและมีคุณค่าต่อผู้รับ
  4. สร้างความรู้จักและการรับรู้แบรนด์: Viral Marketing สามารถสร้างความรู้จักและการรับรู้แบรนด์ได้อย่างมากเนื่องจากเนื้อหาที่สร้างขึ้นสามารถถูกแชร์ไปถึงกลุ่มของผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ได้โดยอัตโนมัติ
  5. สร้างความน่าสนใจและมีคุณค่าต่อผู้รับ: เนื้อหาที่สร้างขึ้นโดย Viral Marketing จะต้องเป็นเนื้อหาที่น่าสนใจและมีคุณค่าต่อผู้ชม
Click to rate this post!
[Total: 1 Average: 5]
Exit mobile version