โลกออนไลน์ นอกจากจะมีประโยชน์เป็นอนันต์ มันก็ยังมาพร้อมกับอันตรายที่ซ่อนอยู่อย่างคาดไม่ถึงได้เช่นกัน โดยทั่วไปก็อาจเป็นไวรัสที่แฝงตัวตามมา ร้ายหน่อยก็แอบขโมยข้อมูล แฮกระบบบัญชีต่าง ๆ ทางสังคมออนไลน์ที่เรามีอยู่ หรือในระดับแย่ที่สุดก็อาจเป็นชีวิตหรือทรัพย์สินของเราเอง การใช้งานโลกออนไลน์ให้ได้อย่างปลอดภัย จึงเป็นคำถามที่ใครหลาย ๆ คนต้องการคำตอบมาอย่างช้านาน…

VPN หรือ Virtual Private Network คือหนึ่งในทางเลือกที่ดี ที่จะช่วยให้เราเข้าถึงโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย โดย VPN ก็คือ “เครือข่ายส่วนตัวเสมือน” หรือถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือระบบ ที่จะช่วยสร้างตัวแทนของเราขึ้นมาบนโลกออนไลน์ ทำให้เวลาเราเข้าไปใช้เว็บไซต์ไหน หรือทำอะไรบนโลกออนไลน์ “จะไม่มีใครรู้ได้ว่าคือตัวเรา” และจะไม่มีใครสามารถเข้าถึงข้อมูลดิจิทัลของเราได้แล้ว ประโยชน์ของ VPN นั้นมีอะไรบ้างคุณรู้หรือไม่ วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องดีๆ ที่อยากให้คุณได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องของ VPN กัน

ประโยชน์ของ VPNรวม 10 ประโยชน์ของ VPN ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน…

1. “เพิ่มความปลอดภัย” ท่องโลกออนไลน์ได้อุ่นใจมากขึ้น

VPN จะช่วยเข้ารหัสข้อมูลของเราทั้งหมดให้ ทำให้ยากต่อการถูกขโมยข้อมูล หรือถึงขโมยไปก็จะไม่สามารถนำข้อมูลนั้น ๆ มาเปิดอ่านได้ ข้อเสียของ VPN ในปัจจุบันก็คือเรื่องของความเร็ว ที่เมื่อเราเชื่อมต่อ VPN แล้ว จะทำให้สัญญาณอินเทอร์เน็ตของเราช้าลงมาก ๆ แต่ถ้าคุณมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ดี ก็แทบจะไม่มีผลใด ๆ

เหมาะแก่การใช้งานเมื่อต้องเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงบนโลกออนไลน์ หรือมีการรับส่งข้อมูลกับผู้อื่น เพราะเมื่อใดที่มีบุคคลที่สามอยู่ในสัญญาณอินเทอร์เน็ตเดียวกับเรา เขาคนนั้นสามารถดักจับข้อมูลที่เราส่งหากันได้

2. “เข้าถึงพื้นที่หวงห้ามได้” ทำลายกำแพง ที่อาจจะไม่ให้เราเข้าถึงบนโลกออนไลน์

โดยปกติแล้ว เรามักจะไม่ได้เชื่อมต่อ VPN อยู่เสมอ ๆ เพราะข้อจำกัดในเรื่องของความเร็ว รวมไปถึงการอยู่ในสถานที่ เครือข่ายของสัญญาณ หรือพื้นที่บนโลกออนไลน์ ถ้าเราไม่ใช้งานแบบที่เสี่ยงเกินไป ก็เรียกได้ว่าแทบจะไม่เกิดความเสี่ยงใด ๆ ขึ้นเลย (ยกเว้นจะซวย หรือคุณตกเป็นเป้าหมายโดยเฉพาะ)

ดังนั้นการใช้ VPN ของผู้คนทั่วไปในปัจจุบัน จึงไม่ได้ใช้เพื่อความปลอดภัย แต่ใช้เพื่อเข้าไปยังพื้นที่เขตหวงห้ามบนโลกออนไลน์ ที่โดยปกติจะบังคับไม่ให้เราเข้าไป การใช้ VPN ก็เหมือนการปลอมตัวเองให้ตรงตามเงื่อนไข สามารถทะลุไปทำสิ่งต่าง ๆ ที่เขาห้ามได้ อาทิเช่น การเข้าเว็บไซต์ที่ถูกบล็อก การไปโหลดหรือเล่นแอป/ เกม ของต่างประเทศ ที่จำกัดไม่ให้คนชาติอื่นเข้าเล่นได้ เป็นต้น

3. “หลบซ่อนตัวตน” เพิ่มระดับการป้องกัน ตรวจจับว่าเป็นเราได้ยากขึ้น

คุณรู้จักคำว่า Digital Footprint หรือร่องรอยทางดิจิทัลไหม มันหมายความว่า ไม่ว่าคุณจะทำอะไรบนโลกออนไลน์ อาทิโพสสเตตัส อัพรูป โหลดภาพ คอมเมนต์ต่าง ๆ มันล้วนแล้วจะถูกเก็บไว้อยู่บนโลกออนไลน์ทั้งสิ้น จะลบยังไงก็ไม่หายไป สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ อาจกลายเป็นตราบาปของเราตลอดชีวิต

VPN คือหนึ่งในสิ่งที่จะช่วยเราหลบซ่อนตัวตนของเราจาก Digital Footprint ที่เราทำไว้ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ดี สิ่งที่เราทำก็จะยังคงอยู่ และเราก็ไม่สนับสนุนให้คุณทำสิ่งที่ไม่ดี โดยไม่รู้จักยั้งคิดหรือเพื่อสิ่งใด ๆ ก็ตาม ที่สามารถส่งผลเสียต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือต่อสังคมได้

4. “ดาวน์โหลดไม่กลัว” อยากจะโหลดอะไรก็ได้ ไม่ต้องกลัวปัญหาตามมา

การดาวน์โหลด เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เรามักทำอยู่บ่อย ๆ บนโลกออนไลน์ แน่นอนว่าการดาวน์โหลดสิ่งต่าง ๆ มันมีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี หรือถูกต้องและไม่ถูกต้อง หากคุณเลือกที่จะดาวน์โหลดบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ดี หรือไม่ใช่ในช่องทางที่ถูกต้อง คุณมีโอกาสที่จะถูกขโมยข้อมูลอาทิเลข IP ที่อยู่ของเรา หรือ ISP ของเราได้ การใช้ VPN จะช่วยปิดบังข้อมูลส่วนนื้ทั้งหมด

แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้ VPN ในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ตำรวจ หรือภาครัฐสามารถยื่นขอ IP ของคุณกับทางผู้ให้บริการ VPN ได้เช่นกัน

5. “แชร์ไฟล์ทางไกลไม่ยาก” เหมาะกับการทำงานข้ามประเทศ

การใช้ VPN จะเป็นเหมือนการปลอมตัวให้เสมือนเครือข่ายสัญญาณอื่น ๆ มันมีประโยชน์มาก ๆ เมื่อเราต้องทำงานทางไกล ที่จะต้องเชื่อมเข้าสู่เครือข่ายส่วนตัวขององค์กรนั้น ๆ VPN จะช่วยให้เราเสมือนใช้เครือข่ายส่วนตัวนั้นอยู่ ทำให้เกิดความปลอดภัยทางข้อมูลขององค์กร ที่จะไม่หลุดออกไปเพราะการเชื่อมเข้าถึงของเครือข่ายภายนอกนั่นเอง

6. “เหมาะกับการใช้นอกสถานที่” ไปที่ไหน VPN คือสิ่งสำคัญเบอร์ต้น ๆ

หากคุณต้องทำอะไรนอกสถานที่ และจำเป็นต้องใช้สัญญาณร่วมกับคนอื่น ๆ เช่น Wi-fi ของร้านกาแฟ หรืออินเทอร์เน็ตสาธารณะ นั่นหมายความว่าเรากำลังเสี่ยงที่จะถูกผู้อื่น ซึ่งใช้สัญญาณเครือข่ายเส้นเดียวกับเรา ดักจับหรือเข้าถึงข้อมูลบนเครื่องมือถือหรือโน็ตบุ๊คพีซีของเราได้ การใช้ VPN จะทำให้ข้อมูลของเราเข้ารหัส และจะไม่มีใครดักจับเอาข้อมูลของเราไปได้นั่นเอง

นอกจากนี้ หากเราไปเที่ยวนอกประเทศ แต่อยากใช้งานเครือข่ายเสมือนอยู่ในประเทศ VPN สามารถช่วยเราได้เช่นกัน นอกจากนี้หากเราต้องแชร์ไฟล์ให้ใครภายนอกสถานที่ VPN จะช่วยปกปิด IP ของเรา ไม่ให้ใครตรวจจับเราได้อีกด้วย

7.“ราคาไม่แพง” มีผู้ให้บริการหลายเจ้า บริการหลายระดับ

VPN มีผู้ให้บริการอยู่อย่างหลากหลาย ทำให้มีบริการอยู่หลายระดับ ตั้งแต่ใช้งานได้ฟรี ไปจนถึงใช้งานใหญ่ ๆ ในระดับองค์กรที่สำคัญ ราคาและความสามารถก็จะแตกต่างกันไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถตรวจเช็คได้จากผู้ใช้งานจริง ว่า VPN เจ้าไหนดี ไม่ดีอย่างไร และช่วยให้เราสามารถเลือก VPN ที่เหมาะกับการใช้งานของเรา รวมถึงเงินในกระเป๋าของเราได้อีกด้วย

8. “ใช้ได้ง่าย” เด็กใช้คอมเป็น ก็ทำได้ !!

ถ้าเป็นเมื่อก่อน พอบอกให้ต่อ VPN ใครต่อใครคงทำหน้างง แล้วถามว่ามันคืออะไรกันเป็นแถว แต่ในปัจจุบัน การใช้งาน VPN ถูกทำให้ง่ายขึ้น เราเพียงแค่ต้องติดตั้งระบบเอาไว้บนอุปกรณ์เชื่อมต่อของเรา จากนั้นกดเปิดหรือเลือกใช้งานไม่เกิน 2 – 3 คลิก ก็สามารถใช้งาน VPN ได้แล้ว ยิ่งถ้าคุณเริ่มใช้งานจนชิน คุณยังสามารถปรับแต่งมันให้ใช้งานได้อย่างหลากหลายมากขึ้นอีกด้วย

9. “ซื้อของได้ถูกลง” เข้าถึงราคาได้ทุกระดับ

อีกหนึ่งความสุดยอดของ VPN คือการช่วยให้เราเข้าถึงราคาที่หลากหลายหรือถูกลงในการช้อปปิ้งแบบออนไลน์ได้ โดยคุณต้องเข้าใจก่อนว่า ค่าเงินของแต่ละประเทศ แต่ละภูมิภาคนั้นไม่เท่ากัน ทำให้ราคาสินค้าบางอย่างผันผวนตามไปด้วย แปลว่าถ้ามีสินค้าชิ้นเดียวกันใน 2 ประเทศ ประเทศไหนที่มีค่าเงินแพงกว่า ก็อาจจะสามารถซื้อสินค้าชิ้นนั้น ๆ ได้ถูกกว่านั่นเอง

อาทิเช่น เกมบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ หากคุณซื้อของประเทศอื่น ๆ อาจมีราคามากถึง 1,000 บาท แต่พอไปซื้อในประเทศที่มีค่าเงินถูกกว่า เกมเกมนั้นอาจมีราคาไม่ถึง 300 บาทด้วยซ้ำ

10. “ถูกกฎหมาย” ไม่ต้องกลัว สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผิด

VPN เป็นสิ่งถูกกฎหมายและถูกใช้งานโดยทั่วไป มันถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวและกิจกรรมทางออนไลน์ของตัวเราและคนอื่น ๆ แมัแต่ในบางแห่งที่ VPN ดูเหมือนจะถูกปราม รัฐบาลหลายประเทศยังให้การรับรองการใช้โดยเจ้าหน้าที่ นักวิชาการ หรือผู้นำทางธุรกิจตามความจำเป็น เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในโลกที่เชื่อมต่อกัน เพราะมันไม่เป็นประโยชน์เลยสำหรับประเทศต่าง ๆ ที่คิดจะแบน VPN ทั้งหมด

ประโยชน์ของ VPNอย่างไรก็ตาม กิจกรรมทางออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย ก็ยังถือว่าผิดกฎหมายอยู่ดี ไม่ว่าคุณจะใช้งาน VPN หรือไม่ก็ตาม…

Click to rate this post!
[Total: 1 Average: 5]