2 รูปแบบแคมเปญโฆษณาที่นิยมทำใน Google Ads จาก Agency
ตัวช่วยสำคัญของการโปรโมทแบรนด์ให้กลายเป็นที่รู้จักและถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์นั้นก็คงจะหนีไม่พ้นการใช้เครื่องมือทางการตลาด (Marketing Tools) ในรูปแบบต่างๆ หากคุณเป็นนักการตลาดให้กับแบรนด์เองอยู่แล้วก็อาจจะมีเวลาในการทดลองผิดถูกด้วยตนเอง หรือถ้าหากตัวแบรนด์เองไม่มีงบประมาณสำหรับจ้างบุคลากรแต่อยากจะลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตลาดอย่าง Google Ads Agency เพื่อให้ได้ผลตอบแทนในระยะเวลาอันสั้นก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยรูปแบบการทำโฆษณาที่เอเจนซี่หรือผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้มักจะเลือกทำเป็นส่วนใหญ่นั้นก็มีรูปแบบที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป แต่จะมีรูปแบบโฆษณาไหนที่น่าสนใจบ้าง ตามมาหาคำตอบกันต่อได้จากบทความนี้เลย
โฆษณาผ่าน Display Campaign
แรกเริ่มที่วิธีการโปรโมทแบรนด์หรือหน้าเว็บไซต์ที่ Google Ads Agency มักจะเลือกทำกัน นั่นก็คือการทำโฆษณาผ่าน Display Campaign ซึ่งเรื่องราวก็เป็นมาแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อนเลย คือตัวโฆษณาที่เป็น Display นั้นจะไปปรากฏตามหน้าเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรกับ Google ซึ่งอาจจะไปปรากฏในรูปแบบของรูปภาพแบนเนอร์ที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป อาจจะเป็นแบนเนอร์ที่มีทั้งรูปภาพ มีตัวอักษร หรือเป็นแบนเนอร์ที่มีรูปภาพอย่างเดียว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจะโฟกัสด้วย ซึ่งสาเหตุที่ที่ทำให้ Display Campaign นี้ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่เป็น Google Ads Agency ก็เพราะว่ามีส่วนช่วยในการสร้าง Awareness หรือการรับรู้ให้กับแบรนด์นั้นได้เป็นอย่างดี
โฆษณาผ่าน Video Campaign
อีกหนึ่งรูปแบบการทำ Ads ที่ Google Ads Agency มักจะเลือกใช้ไม่แพ้กันนั่นก็คือการทำโฆษณาผ่าน Video Campaign เหมาะกับแบรนด์ที่จำเป็นต้องอาศัยการทำวิดีโอเพื่อโปรโมทและนำเสนอสินค้าให้ออกมาในรูปแบบของภาพเคลื่อนไหว ซึ่งวิดีโอดังกล่าว Google Ads Agency ก็จะตั้งค่าให้ไปปรากฏในเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่เป็นพันธมิตรกับ Google เช่นกัน นั่นก็คือแพลตฟอร์ม YouTube นั่นเอง โดยรูปแบบของการทำวิดีโอโฆษณาก็มีความหลากหลายแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น Skippable Ads, Non-Skippable Ads, Video Recovery, Bumper Ads, Outstream Ads หรือ Masthead Ads
จะเห็นได้ว่าการทำโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มที่เป็นพันธมิตรกับ Google เองนั้นเป็นอะไรที่ได้รับความนิยมในบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่เป็น Google Ads Agency อยู่มากพอสมควร อย่างไรก็ตามในฐานะของผู้ว่าจ้างหรือเจ้าของแบรนด์เองแนะนำว่าให้เน้นย้ำความเป็นแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์ต้องการจะโฟกัสกับผู้เชี่ยวชาญที่เป็นเอเจนซี่ให้ดี เพื่อให้มั่นใจว่าโฆษณาทุกๆ ชิ้นที่ผลิตออกมานั้นจะสามารถเข้าถึงและไปปรากฏยังสายตาของกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั่นเอง