นักลงทุนที่เข้าสู่เว็บไซต์ระดับแนวหน้าสำหรับเทรดฟอเร็กซ์อย่าง Exness เป็นประจำ คงจะคุ้นชินหรือไม่ก็เห็น Lot Size ผ่านตามาบ้างแล้ว ซึ่งก็คือปริมาณหรือขนาดในการเทรดสินทรัพย์แต่ละครั้งที่นักลงทุนให้ความสำคัญนั่นเอง เพราะเป็นตัวช่วยให้จัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่า Lot Size คืออะไร สำคัญแค่ไหน มาอ่านสาระดี ๆ ด้านล่างกันเลย
ทำความรู้จักกับ Lot Size
Lot Size คือจำนวนหน่วยวัดหรือขนาดที่ใช้ในการซื้อขายสินทรัพย์ในตลาดฟอเร็กซ์ ตลาดหุ้น และตลาดอนุพันธ์ โดยจะเป็นตัวช่วยกำหนดขนาดที่จะเทรดในแต่ละครั้ง ทำให้นักลงทุนสามารถควบคุมขนาดของพอร์ตลงทุนและความเสี่ยงได้ ดังนั้น การเลือก Lot Size ที่สอดคล้องกับความผันผวนของตลาดจะทำให้ไม่ได้รับผลตอบแทนอย่างเต็มที่ และในตลาดการเงินส่วนใหญ่จะแบ่ง Lot Size ออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
- Standard Lot
- ขนาด: 100,000 หน่วยของสกุลเงินฐาน
- ความเหมาะสม: นักลงทุนมากประสบการณ์ที่เข้าใจตลาดเป็นอย่างดีและมีบัญชีขนาดใหญ่เพราะต้องใช้เงินจำนวนมากและมีความเสี่ยงสูง
- Mini Lot
- ขนาด: 10,000 หน่วยของสกุลเงินฐาน
- ความเหมาะสม: นักลงทุนที่มีประการณ์และมีบัญชีขนาดกลางที่ต้องการความยืดหยุ่น และสามารถรับความเสี่ยงได้มากกว่า Micro Lot
- Micro Lot
- ขนาด: 1,000 หน่วยของสกุลเงินฐาน
- ความเหมาะสม: นักเทรดมือใหม่ที่มีบัญชีขนาดเล็กและกำลังเรียนรู้กลยุทธ์การเทรดด้วยเงินทุนน้อย
อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งนักลงทุนมากประสบการณ์ก็สามารถเลือกใช้ Mini Lot และ Micro Lot ได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ แต่ยังไม่แนะนำให้นักลงทุนหน้าใหม่ลองใช้ Standard Lot
Lot Size สำคัญยังไงกับนักลงทุน
ความสัมพันธ์ของการเลือก Lot Size กับการเทรดมีผลต่อความผันผวนและความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยตรง เพราะการคํานวณ Lot Size และเลือกใช้ที่ไม่เหมาะสมอาจจะทำให้เสี่ยงต่อการขาดทุนหรือพลาดโอกาสในการทำกำไรก็ได้ เพราะโดยปกติแล้ว ขนาดการเทรดที่ใหญ่ขึ้นจะสร้างผลกำไรได้มากกว่าหรือขาดทุนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ถ้ามีขนาดเล็กลงก็จะช่วยลดความผันผวนและความเสี่ยงได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับแนวโน้มของตลาดในช่วงเวลานั้นด้วย
จะกำหนด Lot Size ให้เหมาะสมได้ยังไง
การกำหนดขนาดการลงทุนที่เหมาะสมจะต้องคำนึงถึงหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ขนาดของบัญชีการเทรด ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ สไตล์การเทรด และกลยุทธ์ในการเทรดที่เลือกใช้ และนี่ก็คือวิธีการกำหนดขนาดให้เหมาะสมแบบคร่าว ๆ
- ประเมินเงินทุนและขนาดของบัญชี หากมีเงินทุนน้อย ก็ควรเลือกขนาดที่เล็กลงมาเป็น Micro Lot หากต้องการความมั่นคงและความยืดหยุ่น ก็อาจจะมองประเภท Mini Lot แต่ถ้ามีเงินทุนและประสบการณ์มาก ก็อาจจะเลือกเป็น Standard Lot เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น
- ประเมินระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ แนะนำให้ไม่เกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดต่อการซื้อขายหนึ่งครั้ง เช่น หากมีเงินในบัญชี 10,000 บาท ความเสี่ยงไม่ควรเกิน 100-200 บาทต่อการเทรด
- ประเมินความเสี่ยงของการเคลื่อนไหวของราคา โดยอาศัยเทคนิคการตั้งค่า Stop-Loss Order และ Take-Profit Order จากนั้นจึงปรับ Lot Size ตามสภาพตลาดและสถานการณ์เศรษฐกิจโลก
การคำนวณและวิเคราะห์ Lot Size เป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยในการวางแผน การเลือกขนาด และการตัดสินใจในการเทรดในตลาดที่มีความผันผวนสูงอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับรักษาพอร์ตลงทุนในระยะยาวโดยไม่ให้ขาดทุนจำนวนมากจากการเทรดเพียงครั้งเดียว
