แนะนำ 10 หูฟังตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2023
หูฟังตัดเสียงรบกวน คืออะไร
หูฟังตัดเสียงรบกวน (Noise-cancelling headphones) คือ หูฟังประเภทพิเศษ ที่ใช้เทคโนโลยีในการตัดเสียงภายนอกออก ซึ่งจะช่วยให้คุณได้ฟังเสียงที่คุ้มค่ามากขึ้น และเป็นประโยชน์ในการใช้งานในสถานที่มีเสียงรบกวนสูง เช่น ในเครื่องบิน รถไฟ หรือสถานที่มีการปั่นเปียโน ดังนั้นควรใช้ หูฟังตัดเสียงรบกวน เพื่อไม่ได้ให้ยินเสียงรบกวนต่างๆ
1. หูฟังตัดเสียงรบกวน Bose Headphones 700
ระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟที่มีเฉพาะ Bose 700 เจ้าของฉายาหูฟังตัดเสียงระดับเรือธง มีดีไซน์ที่ทันสมัย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ตัวเครื่องทำมาจากสเตนเลสทำให้มีน้ำหนักเบา earcup มีรูปทรงพอดีกับใบหูใช้วัสดุแบบ memory form ถูกหุ้มด้วยหนังเทียมทำให้เกิดความนุ่มนวลในการรับฟัง มาพร้อมกับระบบควบคุมด้วยการสัมผัส ใช้งานได้ยาวนานถึง 20 โมง และฟังก์ครบครันแบบเต็มสตรีม
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังตัดเสียงรบกวน
2. Marshall Mid A.N.C (Active noise cancelling)
อย่างที่ทราบกันดีว่า Marshall เป็นแบรนด์เครื่องเสียงชื่อดังระดับโลก และไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อได้เปิดตัวหูฟังรุ่นล่าสุดทีชื่อว่า Marshall Mid A.N.C ได้มีการพัฒนาเทคโนโยยีจากรุ่นเก่า เป็นตัวแรกที่สามารถตัดเสียงรบกวน Noise Canceling ได้อย่างดีเยี่ยม มีรูปทรงสุดคลาสสิคตามสไตล์ Marshall เมื่อเปิดระบบ A.N.C สามารถใช้งานได้ถึง 20 ชั่วโมง และยิ่งไปกว่านั้นหากคุณปิดระบบ A.N.C จะทำให้คุณสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 30 ชั่วโมง แบบจุใจกันเลยทีเดียว ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ต้องห้ามพลาดอย่างแน่นอน
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังตัดเสียงรบกวน
3. หูฟังตัดเสียงรบกวนแบบไร้สาย Sony WH-1000XM4
หูฟังอัจฉริยะ Sony WH-1000XM4 ได้ถูกพัฒนาเทคโนโลยีให้มีความล้ำสมัย สามารถปรับเสียงได้ตามกิจกรรมที่คุณทำ เช่น เมื่อคุณอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าคุณสามารถปรับให้เสียงเงียบลงได้เมื่อมีเสียงประชาสัมพันธ์ดังขึ้น และเพลงจะเล่นต่อเมื่อเสียงนั้นได้เงียบไป หรือคุณสามารถปรับระดับได้ตามใจที่ต้องการด้วยระบบ HD Noise Cancelling QN1 มีเสียงคมชัดที่สมจริงทำให้คุณได้อรรถรสในการฟังเพลง มีฟังก์ชั่นชาร์จเร็วและใช้ได้อย่างยาวนานถึง 30 ชั่วโมง
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังตัดเสียงรบกวน
4. Apple AirPods Pro (รุ่นที่ 2)
สัมผัสใหม่แห่งการฟังเพลง สาวก Apple ไม่ควรพลาด Apple AirPods Pro ที่มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า มีจุกหูฟังให้คุณเลือกถึง 4 ขนาด S M L และ XL เพื่อเสริมการฟังที่ดียิ่งขึ้น ตัวหูฟังได้มีการวางองค์ประกอบเสียงต่างๆ ไว้ตามจุดรอบๆรอบตัว สามารถใช้งานได้ 6 โมงชั่ว และเมื่อคุณชาร์จกับ Madsafe จะสามารถใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง ควบคุมฟังก์ชั่นเพียงปลายนิ้วสัมผัสที่ก้านหู และยังสามารถเลื่อนขึ้น-ลง เมื่อต้องการให้ Siri อ่านข้อความที่เด้งเข้ามาในตอนนั้นทันที
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังตัดเสียงรบกวน
5. หูฟังตัดเสียงรบกวนแบบไร้สาย Sennheiser Momentum 4 Wireless
ไม่เด่นแต่หรูหรา ชื่อนี่ไม่ได้มาง่ายๆ ต้องยกให้กับ Sennheiser Momentum 4 Wireless ถึงจะเป็นหูฟัง Full Size แต่ได้พัฒนามาให้รองรับกับหูได้อย่างดีเยี่ยมโดยใช้ Earpads เพื่อเพิ่มความสะสบายให้แก่ผู้ใช้งาน สามารถตัดเสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยี ANC ( Adaptive Noise Cancellation ) และยังมีโหมด Transparency ที่จะทำให้คุณได้ยินเสียงด้านนอกโดยที่คุณไม่ต้องถอดหูฟัง มาพร้อมกับแบตเตอรี่อึด ถึก ทน ถึง 60 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน หรือแม้แต่อยู่บนเครื่องบินก็หายห่วง ควบคุมการใช้งาน โทร โดยระบบสัมผัส มีชุดไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ถึง 42 มม.
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังตัดเสียงรบกวน
6. JBL หูฟังไร้สาย รุ่น T450BT
สำหรับใครที่ชื่นชอบเบสหนักๆ เราขอแนะนำ JBL T450 BT ด้วยมาตรฐานของแบรนด์อย่างที่ทราบกันดีว่า JBL ไม่เป็นรองใครในเรื่องนี้อยู่แล้ว ดีไซน์หรูเหมาะกับทุกเพศทุกวัย วัสดุมีความแข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา พกพาไปที่ไหนก็สะดวก แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 11 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับราคาแล้วบอกเลยว่าคุ้มเกินคาด สามารถคอนโทรลได้บน ear cup ได้อย่างสบายๆ
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังตัดเสียงรบกวน
7. B&O Beoplay EX หูฟังแนวเสียงยอดเยี่ยม ฟังก์ชันระดับ Hi-End
เป็นอีกแบรนด์เครื่องเสียงที่ได้รับความนิยมสูงมาก B&O Beoplay EX Atthracite Oxygen เป็นแบรนด์ระดับโลกจัดอยู่ในหมวด Luxury พร้อมฟังก์ชั่นที่มีแบบจัดเต็มมีระบบตัดเสียงรบกวน Adaptive ANC ไมค์โครโฟนมีมากถึง 6 ตัว เชื่อมต่อได้กับทุกระบบและเชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตร มีดีไซน์ที่สวยหรูไม่เป็นรองใครเช่นกัน ตัวหูฟังน้ำหนักค่อนข้างเบาเพื่อรองรับกับการฟังเพลงของผู้ใช้งานได้อย่างราบรื่นสามารถกันน้ำ กันฝุ่น IP57 ตัวไดรเวอร์เสียง Neodymium ขนาด 9.2 มิลลิเมตร สามารถใช้งานได้ถึง 8 ชั่วโมง และเมื่อใช้เคสชาร์จจะสามารถเพิ่มพลังแบตเตอรี่ได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังตัดเสียงรบกวน
8. Beats Fit Pro หูฟังไร้สายที่แท้จริง
หูฟังดีไซน์เก๋จากแบรนด์ Beats Fit Pro ตัวเครื่องเป็นแบบเกี่ยวมีรูปทรงเป็นโค้งเพื่อให้เข้ากับหูของคุณ ควบคุมการใช้งานไม่ว่าจะเป็นการรับสาย หรือฟังเพลงสามารถครั้งเดียวที่ปุ่ม b ตรงตัวเครื่อง ใช้ชิป Apple H1 สามารถใช้กับระบบ Android และระบบ IOS ก็สามารถเชื่อมต่อได้แบบไม่มีสะดุด และยังสามารถแชร์กับ Apple AirPods ได้อย่างง่ายดาย จุดเด่นของรุ่นนี้จะมี Fit-Wing ซิลิโคนที่มีความยืดหยุ่น ทำให้การดูหนัง ฟังเพลง ของคุณเป็นเรื่องสนุกเพลิดเพลิน
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังตัดเสียงรบกวน
9. Huawei FreeBuds Pro ดีไซน์ล้ำสมัย ฟังเพลงสนุก
หูฟังตัดเสียงรบกวน HUAWEI รุ่น FreeBuds Pro นั้น ทำออกมาได้ดีทีเดียวเพราะมีระบบ Bone Sensor ทำงานคู่กับไมโครโฟนอีก 3 ตัว ใช้ระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก ANC ( Adaptive Noise Cancellation ) สามารถกันน้ำกันและฝุ่นระดับ IPX4 ต่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ของ HUAWEI ก็สามารถใช้งานได้ทั้งระบบ IOS และ Android ใช้งานได้ต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง และถ้าปิดโหมด ANC จะใช้งานได้ 7 ชั่วโมง ชาร์จในเคสต่อยังกลับมาใช้งานได้อีก 30 ชั่วโมง และที่สำคัญราคาของ HUAWEI FreeBuds Pro คุณสามารถจับต้องได้อย่างแน่นอน
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังตัดเสียงรบกวน
10. หูฟัง Aukey EP-N6 True Wireless
นอกจาก POWER Bank และปลั๊กชาร์จไวนั้น AUKEY ยังทำเครื่องเสียงออกมาได้ไม่แพ้ใครเลยด้วย AUKEY EP-N6 เป็นรุ่นที่น่าสนใจมากทีเดียว เพราะสามารถเชื่อมได้ทั้งโทรศัพท์และแท็บเล็ตด้วย Bluetooth เวอร์ชั่น 5.1 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Hybrid Active Noise Cancellation สามารถตัดเสียงรบกวนได้ถึง 32 เดซิเบล ไมโครโฟนเป็นระบบ MEMS ตอบสนองความถี่ 100 Hz – 10 kHz กันน้ำและฝุ่นระดับ ตัวแบตเตอรี่ใช้งานได้ 4 ชั่วโมง และเมื่อชาร์จในเคสจะสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 22 ชั่วโมง
ช่องทางสั่งซื้อหูฟังตัดเสียงรบกวน
หูฟังตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี
หูฟังตัดเสียงรบกวน (Noise-cancelling headphones) คือหูฟังที่มีเทคโนโลยีตัดเสียงภายนอกออก เพื่อให้คุณได้ฟังเสียงที่คุ้มค่ามากขึ้น ยี่ห้อที่โด่งดังในหูฟังตัดเสียงรบกวน คือ Bose และ Sony ซึ่งเป็นตัวแทนของหูฟังตัดเสียงรบกวนที่มีคุณภาพสูง โดย Bose เป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีตัดเสียง และ Sony มีคุณภาพเสียงดีและเทคโนโลยีตัดเสียงที่เป็นที่นิยม